Digital Experience Monitoring (DEM) Overview
Digital Experience Monitoring (DEM) คืออะไรล่ะ?
DEM คือระบบที่จะช่วยให้ IT Team มี Visibility ที่จะช่วยให้เกิดการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับ User Experience ที่ใช้งาน Application ไม่ว่าจะแอพนั้นจะตั้งอยู่บน Data Center หรือบน Cloud ก็ตาม ยกตัวอย่างที่ DEM สามารถช่วยได้คือ ทำไมยูสเซอร์ใช้งานได้ช้า, ปัญหาเกิดขึ้นที่ยูสเซอร์ไหนบ้าง, ปัญหาเกิดจาก Internet, Network, Server หรือ Cloud กันแน่ และแน่นอนสิ่งที่ DEM ช่วยตอบโจทย์คือเมื่อมี Visibility ก็ทำให้ค้นพบสาเหตุของปัญหา และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วตามมาเป็นขั้นตอน
DEM แตกต่างจาก APM และ NPMD อย่างไร ฟังดูแล้วก็เหมือนๆกันไหม?
เชื่อว่าหลายคนพอได้อ่านดูแล้วก็ดู มันต่างกันยังไงกับ APM (application performance monitoring) และ NPMD (network performance monitoring and diagnostics) ใช่ไหมครับ? แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่แปลกที่จะสับสนเพราะ DEM เป็นส่วนผสมระหว่าง APM และ NPMD โดยจะต้องมีความสามารถในการทำ Real User Monitoring, Endpoint Monitoring, Synthetic Transaction monitoring, Screen capture and session replay, Network Path Monitoring และ Network Analysis ด้วยความสามารถทั้งหมดของ DEM จะ Focus ไปที่ Point of View of User หรือก็คือเป็นเครื่องมือที่ใช้มอนิเตอร์ ตรวจจับ ตรวจความพึงพอใจในการใช้งานของยูสเซอร์ผู้ใช้งาน
ความแตกต่างของ DEM จาก APM เป็นจุดที่โฟกัสจาก Application Performance เพื่อให้ทราบว่าเครื่องและแอพยังทำงานได้ดีอยู่และ NPMD ที่โฟกัสที่การทำงานของระบบเครือข่ายว่าทำงานเป็นอย่างไร แต่ไม่ได้มีเครื่องมือในการวัดว่าผู้ใช้งาน สามารถใช้งานระบบเป็นอย่างไร ช้าหรือเร็ว หรืออย่างที่ทีมงานไอทีทั่วไปบอกว่า “ถ้าเงียบ ถือเป็นข่าวดี ถ้าโวยขึ้นมา ก็เตรียมรับมือ” แต่เมื่อมี DEM จะทำให้รู้ว่า ที่เงียบ นิ่งๆ คือ Happy หรือ Annoy
DEM Summary
- DEM ย่อมาจาก Digital Experience Monitoring
- DEM มีความสามารถของ APM และ NPMD รวมกัน อยู่กึ่งกลาง โฟกัสที่ Digital Experience of User หรือ การวัดประสิทธิภาพการใช้งานในมุมว่า User แต่ละรายใช้งาน Application Performance มี Score เป็นอย่างไรบ้าง วัดผลเป็นคะแนน
- DEM ช่วยให้เกิดการวิเคราะห์ปัญหาของ User ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น อยู่ที่ User, Application, Cloud, Network หรือ Internet